สัสดีย์ อันนี้เป็นบล๊อกแรก และบทความแรกในชีวิต 555555555
ลองเสพกัน ดีไม่ดีย์ยังไง บอกด้วยนาจาาาาาาา
เห็นมีคนถามมาเยอะรองจากเรื่องอากาศว่าหนาวไหม กี่องศา ก็เรื่องว่า VISA
ขอยากไหม
อะไรยังไง ทำไง ได้กี่ปี เปลี่ยนประธานธิบดีแล้วมีผลไหม?? จะมาเล่าในมุมของเรานะ
มันอาจจะไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ หรือถูกใจผู้เชี่ยวชาญคนไหน...
แต่นี่คือไปขอมากับประสบการณ์จริงของชั่นเอง...
ขั้นตอนแรก ก็เข้าไปในเว็บแล้วกรอกแบบฟอร์ม ออนไลน์ ให้ครบ ถูกต้อง
และชัดเจนที่สุด!!! ย้ำ ชัดเจนที่สุด ทั้งเรื่องของ วันไปและกลับ ที่พัก
หลักฐานและสถานภาพทางการเงิน เตรียมเอกสารไปให้ครบและให้พร้อมที่สุดแหละ โกหกให้น้อยที่สุด
เพราะเดี๋ยวจะโปะเองนาจา (นอกจากเป็นคนเชี่ยวชาญในการตอแหลโดยกมลสันดาร
ก็เอาที่สบายใจ 555) เสร็จแล้วนางจะให้ปริ้น และไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการขอ VISA ที่ธนาคาร 5,920
บาท (160 USD) แล้วก็เข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ในเว็บได้เลออออ
ขั้นตอนที่ 2 วันสัมฯ เราไปรอบเช้านัด 7.30 น ก็ตรงเวลาอะ
ไปถึง 7 โมงยืนรอคิวตรวจกระเป๋า ฝากกระเป๋า ก็เข้าไป ยื่นเอกสาร ต่อคิวเลย (รอไม่นาน)
ห้องสัมภาษณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดนะ
5555 เป็นห้องสี่เหลี่ยม ไม่ใหญ่อะ พูดไรไป คนยืนรอได้ยินหมด (กูอายภาษามากกก
555)
2.1 ตอนรอคิวเราก็เช็คเอกสาร เพราะได้รับการเตรียมและ QC มาอย่างดี #บายฝา 555555
ในแถวคือทุกคนวุ่นวายกับการเรียงเอกสาร ทำให้ เดี่ยวพาสปอตหล่น
เดี๋ยวบุ๊คแบงหล่น ฯลฯ 555555555
2.2 เราไม่ตื่นเต้นเลย จนมาเจออีพวกรอบข้างเนี่ย (ดีออก!!!)
จะพยายามฟังคนที่สัมฯ อยู่ เพราะอย่างที่บอกได้ยินหมด ว่าเขาถามอะไร แนวไหน?
2.3 ถึงเค้าเตอร์สัมฯ เจอคนดำ ที่มองว่า อีนี่โหดสุด พูดเร็วสุด
แต่นางก็พูดไทยได้นะ แต่ไม่พูด สึส! คำแรก
ที่นางทักทายคือ “ “คุณรู้ไหม? วันนี้ตั้งแต่ฉันสัมฯมา ฉันยังไม่ให้ใครผ่านเลย....” กุก็.... “Then What??” อย่างที่บอกว่า ไม่ได้ตื่นเต้นเลย ไม่ผ่านก็ไม่ซี
แต่กูเสียดายเงินนนนนน 5555
แล้วนางก็ถามต่อว่า ไปไหน? ไปทำอะไร? ไปกี่วัน? ไปกับใคร? พักไหน?
ไปกี่เมือง? ก็ตอบไปตามความจริง เราว่าถ้าเราพูดเรื่องจริงมันจะไม่โปะอะ ถึงแม้ว่าภาษาเราจะไม่ดี
แต่ก็สามารถ Pardon? ได้ (กู พาร์ดอน ไปร้อยกว่ารอบ 555555) พวกนี้นางถูกฝึกมาให้จับโปะอยู่แล้ว
ฉะนั้น เราต้องมี skill เหนือกว่า 555555
2.4 หลักฐาน ของเราที่นางขอดู (และเห็นขอทุกคน) คือ Book
Bank ในกรณีเราใส่ว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน ห้ามเมคนะค่ะ!!!
เพราะมันจะโชว์ Code ของเงินเดือนเข้าอย่างชัดเจน ,กรณีไปนาน ต้องมีหนังสือรับรองบริษัทรับรองว่า
เห่ย กูได้รับอนุญาติจากบริษัทนะเหวยย ไรงี้
2.4.1 ในกรณีเป็นเจ้าของบริษัท หนังสือรับรองบริษัท ภพ20 ฯลฯ
เตรียมไปให้ครบ ก่อนหน้าเรา (คนละเค้าเตอร์) เป็น
ลูกเจี๊ยบ นางบอกว่านางเป็นเจ้าของคลีนิคศัลยกรรม (อยากขอเบอร์ไว้ปรึกษาเรื่องหมูกมาก
แต่อยู่ในแถว) อีคนสัมฯ นางก็ว๊อท?? ศัลยกรรม? แล้วก็ขอดู สเตทเม้น
ดูเอกสารทุกอย่างงงงงงงงงงงงงงงงงงง ถามวนไปวนมา จนลูกเจี๊ยบบอกว่า “นู๋ไปกับทัวร์ค่ะ” นางก็ขอดูหลักฐาน ว่าซื้อทัวร์ที่ไหน จริงป่าว
โชคดีเอกสารนางครบไง แล้วก็ปั้มผ่าน... นางบรรจงกราบพร้อมย่อตัว
เสียงกรี๊ดจากลูกเจี๊ยบสร้างความแตกตื่นให้ตำรวจในนั้นเป็นอย่างมาก
2.5 นางถามเราว่า เอาเงินไปเท่าไร? นอกจากเงินสด มีไรอีกปะ?
บัตรเครดิตไรงี้ ก็บอกไป โชว์ความรวยของพวกเราให้นางได้รับรู้ววววว 5555555 แต่ แต่ แต่ ไม่ได้หมายความว่าคนไม่รวยจะไม่ผ่านนะ
เหมือนนางแค่อยากรู้ว่าไปอะ มีเงินเที่ยวไหม? แค่นั้น เพราะถ้าไป 1 เดือน
แต่เอาเงินไป 2,000 USD ก็ไม่สมเหตุสมผลมะ จะบอกว่าจะไปยืนสั่นกระดิ่งขอเศษเงินที่หน้า
Macy หรือ Times Square ก็ใช่เรื่อง
2.6 เรื่องรายละเอียดที่อยุ่ ต้องบอกนางให้ครบนะ ของเราไป 2 เมือง
ต้องบอกให้ได้ทั้ง 2 เมือง เราบอกว่าไม่รู้จักใครที่นู่น ดังนั้น ที่พักต้องเป็นพวกโรงแรม
อพาร์ทเม้น หรือ พวก Airbnb เป็นต้น อย่าเสร่อบอกไปพักบ้านพี่ เพื่อน
หรือผัวคนที่ 36 ละ!!! โดนเขวี้ยงพาสปอตใส่หน้านาจา เพราะมึงโปะมากกกก / ไปเที่ยวไหนบ้าง? ก็บอกไป (บางคนกูเห็น
โห อีดอก ยกยอปอปั้น ว่าเป็นเมืองในฝันงั้นงี้ แต่นางชอบนะ
เพราะนางเป็นอเมริกันไง) / ไฟท์บิน ไป - กลับ หรือ Domestic
Flight ก็บอกไป พร้อมหลักฐานการจอง ว่ามีอยู่จริง
2.7 #ฝา บอกว่า ถ้าวีซ่าผ่านนางจะเอา passport ไป
แต่ถ้าไม่ผ่านนางจะคืน passport กลับมา สรุป ชั่นก็โดนจุ๊บ passport ไป
พร้อมกับบอกกูว่า “You are my first of the day, Have a nice trip.” ก็ดีใจไหม ก็ดีใจที่กูไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 5,920
บาท ฟรี (แค่นี้จริง ๆ) 555555555555
ขั้นตอนที่ 3 รอรับ passport สวย ๆ
ตามที่อยู่ที่ให้ไว้ พร้อมกับเปิดดูว่าได้กี่ปี ของเราได้ 10 ปี (ตอนเข้าประเทศก็ปั้มให้อยู่
6 เดือน)
ก็ประมาณนี้ จะสรุป (ในแบบของเรา) ว่า
- สถานะการเงินไม่ได้เป็นประเด็น 100% ของการให้ visa อะ แค่คุณมีความมั่นคงทางการงาน ทำมาแล้วขั้นต่ำ 6 เดือน หรือ มีจดหมายรับรองจากบริษัทเป็นหลักแหล่ง / ถ้าเป็นเจ้าของบริษัท ก็มีเงินนอนในบัญชีไปแสดงก็น่าจะไม่มีปัญหา ของเราขอ วีซ่าท่องเที่ยว (B2) แต่ถ้าคนที่ขอวีซ่า เพื่อไปทำงาน ก็เตรียมจดหมายจากบริษัทไปให้พร้อม หลายคนที่เราเจอวันนั้น ไม่ผ่านก็มี อันนี้เราไม่รู้ 55555
- เราเจอคุณยายแก่ ๆ มาก ๆ มาขอ ลูกแกจะพาไปเที่ยว นางผ่านนะ เพราะเอกสารยืนยันพร้อม เรายังไปดีใจกะนางเลย 555555
- กรณีคนที่จะโดด เราว่าต่อไปนี้น่าจะยากละ เพราะถ้าปีหน้ามีการเปลี่ยนประธานาธิบดี Trump นางดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับพวกโดดร่มมาก (แต่เยอะจริง ๆ เผลอ ๆ เยอะกว่า Homeless อีก 555555)
- นึกไม่ออกกละ ใครมีไรก็เสริมมาได้นาจา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น